รายละเอียดราคา ตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองมะเร็ง
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
ตรวจสุขภาพ Standard 16 รายการ สำหรับผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป 1 ครั้ง ประกอบด้วย
- ตรวจร่างกายโดยแพทย์
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
- ตรวจปัสสาวะ (UA)
- ตรวจระดับนํ้าตาลในเลือด (FBS)
- ตรวจการทํางานของตับ (SGPT)
- ตรวจการทํางานของตับ (SGOT)
- ตรวจการทํางานของไต (Cr)
- ตรวจการทํางานของไต (BUN)
- ตรวจระดับไขมันในเลือด (Chol)
- ตรวจระดับไขมันในเลือด (Triglyceride)
- ตรวจระดับไขมันในเลือด (LDL)
- ตรวจระดับไขมันในเลือด (HDL)
- ตรวจหาระดับกรดยูริก (Uric acid)
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG)
- ตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งรังไข่ (CA125)
- ตรวจมะเร็งปากมดลูก (pap smear)
หมายเหตุ
- หากแพทย์แนะนำให้มีการรักษาด้วยยา จะมีค่ายา ค่าตรวจ ค่าบริการเพิ่มเติมตามจริง (เจ้าหน้าที่คลินิกจะเป็นผู้แจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่าย)
- หากต้องการใบรับรองแพทย์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม จ่ายที่คลินิก
- สำหรับสาขากรุงเทพฯ จ่ายเพิ่ม 150 บาท
- สำหรับสาขาอื่นๆ จ่ายเพิ่ม 100 บาท
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองมะเร็ง
- สำหรับผู้หญิงอายุ 45 ปีขึ้นไป
- ระยะเวลาในการตรวจประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ทราบผลภายใน 1 วันหลังการตรวจ
- สามารถเข้าไปรับฟังผลการตรวจด้วยตนเองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
- แพทย์ออกตรวจช่วงเวลา 09.00 - 20.00 น. (พักช่วงเวลา 12.00-13.00 / 17.00-18.00 น.)
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดน้ำและอาหาร (สามารถดื่มน้ำเปล่าได้) 8-12 ชั่วโมงก่อนการตรวจ
- หลีกเลี่ยงการตรวจช่วงที่มีประจำเดือน โดยรอตรวจหลังจากที่ประจำเดือนหมดไปแล้วประมาณ 7 วัน
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเคยเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง
- ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุน้อย
- ผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน
- ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีคู่นอนหลายคน
- ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน (โดยเฉพาะหากนานกว่า 5 ปีเพราะมีความเสี่ยงสูง)
- ผู้หญิงที่มีผ่านการตั้งครรภ์และคลอดลูกมากกว่า 4 ครั้ง
- ผู้หญิงที่มีประวัติการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม
- ผู้หญิงที่ขาดการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- ผู้หญิงที่ขาดสารอาหารบางชนิด โดยเฉพาะผู้ที่รับประทานผักและผลไม้น้อย
- ผู้หญิงที่สูบบุหรี่ (ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปอดและหลอดลม)
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพและตรวจคัดกรองมะเร็ง
การตรวจคัดกรองมะเร็ง เป็นการตรวจหาความเสี่ยงในเบื้องต้น เพื่อประเมินโอกาสการเกิดมะเร็งตามช่วงอายุที่เหมาะสม ทั้งในคนทั่วไปที่มีสุขภาพดี และผู้ที่มีความกังวลหรือมีอาการผิดปกติ
5 อันดับแรกของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้ชายไทย ได้แก่ ตับและท่อน้ำดี ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ปอดและหลอดลม ต่อมลูกหมาก ปากและช่องปาก
อ้างอิงจาก จำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พ.ศ. 2562 (ข้อมูลล่าสุด)
มะเร็ง คืออะไร?
มะเร็ง คือเนื้อเยื่อที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติในร่างกาย มีการแบ่งตัวและเติบโตอย่างไร้การควบคุมจากระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งเซลล์มะเร็งนี้มีต้นกำเนิดมาจากการกลายพันธุ์ของเซลล์ปกติในร่างกาย
ข้อดีของการตรวจคัดกรองมะเร็ง คือ?
- การตรวจคัดกรองมะเร็งสามารถบอกความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง ได้ตั้งแต่ยังไม่มีการพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง การตรวจไม่ยุ่งยาก และไม่มีการตัดเนื้อเยื่อไปตรวจแต่อย่างใด
- หากผลการตรวจคัดกรองพบว่าไม่มีความเสี่ยง จะทำให้ผู้ที่มีสุขภาพดีมั่นใจยิ่งขึ้น และช่วยให้ผู้ที่รู้สึกมีอาการผิดปกติ หรือมีความกังวลอยู่ คลายความวิตกกังวลไปได้
- หากพบว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้าง ยังไม่ได้หมายความว่าเป็นมะเร็ง แพทย์จะให้ความรู้เกี่ยวกับความเสี่ยง ข้อควรระวัง และการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม พร้อมทั้งแนะนำว่าควรมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลหรือไม่
- หากมีเซลล์ผิดปกติอยู่ การตรวจคัดกรองจะช่วยให้มีโอกาสตรวจพบได้เร็ว และมีโอกาสรักษาให้หายมากขึ้น การเริ่มต้นรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้ลดโอกาสการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้
ตรวจคัดกรองมะเร็ง VS ตรวจมะเร็ง ต่างกันอย่างไร?
การตรวจคัดกรองมะเร็ง เป็นการตรวจสิ่งบ่งชี้ความเสี่ยงของมะเร็งในเบื้องต้น โดยยังไม่มีการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจยืนยันว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ การตรวจค่อนข้างสะดวก และถือเป็นด่านแรกที่จะช่วยให้เราประเมินความเสี่ยงได้
ในขณะที่ การตรวจมะเร็งจะมีการตรวจอื่นๆ ที่ละเอียดมากขึ้น โดยวิธีการตรวจจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สงสัยว่าจะมีเนื้อร้าย และจะมีการตัดตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจวิเคราะห์เพื่อยืนยันผลว่าเป็นเซลล์มะเร็งจริงหรือไม่
เนื้องอก VS มะเร็ง ต่างกันอย่างไร?
เนื้องอก เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ แต่ไม่เจริญลุกลามไปยังบริเวณอื่นของร่างกาย โดยส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่หากอยู่ในส่วนที่สำคัญหรือปล่อยทิ้งไว้จนมีขนาดใหญ่ขึ้นจนมีผลต่อการทำงานของอวัยวะนั้นๆ หรืออวัยวะข้างเคียง ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ซึ่งหากส่วนของเนื้องอกนั้นมีลักษณะเป็นถูงน้ำจะถูกเรียกว่า “ซีสต์”
ในขณะที่มะเร็งเป็นเนื้องอกที่เป็นเนื้อร้าย มีการแบ่งตัวของเซลล์ที่ผิดปกติ ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ และสามารถลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ได้ เป็นอันตรายต่อการทำงานของอวัยวะนั้นๆ และระบบอื่นๆ ที่มะเร็งลุกลามไป
หมายเหตุ
- หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนเข้ารับการตรวจ