แพ็กเกจและโปรโมชั่น

รายละเอียดราคา ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน

ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

• ค่าตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน 9 รายการ สำหรับผู้ชาย 1 ครั้ง รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล รายการตรวจมีดังนี้

1. ตรวจร่างกายโดยแพทย์
2. ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
3. ตรวจหาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
4. ตรวจหาภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HbsAb)
5. ตรวจหาเชื้อเอดส์ (HIV)
6. ตรวจหาการติดเชื้อซิฟิลิส (VDRL)
7. ตรวจหากรุ๊ปเลือด (ABO group)
8. ตรวจหากรุ๊ปเลือด (Blood group Rh)
9. ตรวจหาโรคทางพันธุกรรม (Hemoglobin Typing)

หมายเหตุ

• หากแพทย์แนะนำให้มีการรักษาด้วยยา จะมีค่ายา ค่าตรวจ ค่าบริการเพิ่มเติมตามจริง (เจ้าหน้าที่คลินิกจะเป็นผู้แจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่าย)
• หากต้องการใบรับรองแพทย์ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม จ่ายที่คลินิก
  • สำหรับสาขากรุงเทพฯ จ่ายเพิ่ม 150 บาท
  • สำหรับสาขาอื่นๆ จ่ายเพิ่ม 100 บาท

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 1 ชั่วโมง
• ทราบผลประมาณ 1 วันหลังการตรวจ โดยแพทย์จะนัดไปฟังผลการตรวจในวันถัดไป ไม่สามารถรับผลทางอีเมลได้
• แพทย์ออกตรวจช่วงเวลา 09.00 - 20.00 น. (พักช่วงเวลา 12.00-13.00 / 17.00-18.00 น.)

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ

• โรคประจำตัว ยาที่กำลังรับประทาน และประวัติสุขภาพอื่นๆ หากมีผลตรวจสุขภาพครั้งก่อนหรือรายงานจากแพทย์ ควรนำไปในวันที่รับบริการด้วย

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นใจก่อนสร้างครอบครัว และนอกจากเป็นการตรวจเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการมีลูกแล้ว ยังเป็นการตรวจเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อสู่คนรัก เพื่อให้มั่นใจว่าคุณและคู่พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตร่วมกัน รวมไปถึงการมีลูกอย่างปลอดภัย

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน มีข้อดีอย่างไร?

• เพิ่มความมั่นใจ ว่าไม่อยู่ในระหว่างการติดเชื้อที่อาจแพร่ไปสู่คนรักได้ ซึ่งการตรวจโดยหลักๆ แล้ว ได้แก่ การตรวจเชื้อเอชไอวี เชื้อไวรัสตับอักเสบบี/ซี ซิฟิลิส และการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น หนองใน เริม หูดหงอนไก่ หูดข้าวสุก เป็นต้น
• เป็นการตรวจความพร้อมที่จะมีบุตร เช่น ตรวจร่างกายโดยแพทย์ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจหมู่เลือด ตรวจโรคที่อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ เป็นต้น หรือบางคู่อาจตรวจร่างกายเพิ่มเติมเพื่อดูว่าเข้าข่ายภาวะมีบุตรยากหรือไม่
• ได้ตรวจความเสี่ยงของโรคบางโรคที่อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ หรือสุขภาพของลูกในอนาคตได้ เช่น โลหิตจาง หรือธาลัสซีเมีย เป็นต้น